ทนายความเขียนคำร้องประกอบคำรับสารภาพคดีอาญาขอให้ศาลลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ

แนวทางการเขียนคำร้องประกอบคำรับสารภาพคดีอาญาขอให้ศาลลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ

 

     การลงโทษจำเลยในคดีอาญา นอกจากจะเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว ยังขั้นอยู่กับดุลพินิจศาล โดยจะพิจารณาเช่น พฤติการณ์แห่งคดี  ความร้ายแรง เหตุเกี่ยวกับตัวผู้กระทำความผิด ฯลฯ โดยนอกจากจะได้จากการสืบเสาะของพนักงานคุมประพฤติ ข้อเท็จจริงชั้นสอบสวน และที่สำคัญยังมีข้อเท็จจริงที่คู่ความแถลงต่อศาล ก็เป็นส่วนสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ทราบถึงเหุบรรเทาโทษต่าง ๆที่จะสามารถนำมาประกอบดุลพินิจในการลงโทษจำเลยได้ ซึ่งปกติทนายความอาจทำเป็นคำร้องประกอบคำรับสารภาพ ยื่นต่อศาล

 

    การเขียนคำร้องประกอบคำรับสารภาพคดีอาญาเป็นไป ตามหลักใน ป.อาญามาตรา ๕๖ และแนวคำพิพากษาศาลฎีกาหรือพฤติการณ์พิเศษอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อจำเลย

 

    มาตรา 56  ผู้ใดกระทำความผิดซึ่งมีโทษจำคุกหรือปรับ และในคดีนั้นศาลจะลงโทษจำคุกไม่เกินห้าปีไม่ว่าจะลงโทษปรับด้วยหรือไม่ก็ตามหรือลงโทษปรับ ถ้าปรากฏว่าผู้นั้น

 

(1) ไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน หรือ

(2) เคยรับโทษจำคุกมาก่อนแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ หรือเป็นโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือ

(3) เคยรับโทษจำคุกมาก่อนแต่พ้นโทษจำคุกมาแล้วเกินกว่าห้าปี แล้วมากระทำความผิดอีก โดยความผิดในครั้งหลังเป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

    และเมื่อศาลได้คำนึงถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม สุขภาพ ภาวะแห่งจิต นิสัย อาชีพ และสิ่งแวดล้อมของผู้นั้น หรือสภาพความผิด หรือการรู้สึกความผิด และพยายามบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น หรือเหตุอื่นอันควรปรานีแล้ว ศาลจะพิพากษาว่าผู้นั้นมีความผิดแต่รอการกำหนดโทษหรือกำหนดโทษแต่รอการลงโทษไว้ ไม่ว่าจะเป็นโทษจำคุกหรือปรับอย่างหนึ่งอย่างใดหรือทั้งสองอย่าง เพื่อให้โอกาสกลับตัวภายในระยะเวลาที่ศาลจะได้กำหนดแต่ต้องไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่ศาลพิพากษา โดยจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของผู้นั้นด้วยหรือไม่ก็ได้

    เงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง ศาลอาจกำหนดข้อเดียวหรือหลายข้อตามควรแก่กรณีได้ ดังต่อไปนี้

(1) ให้ไปรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานที่ศาลระบุไว้เป็นครั้งคราว เพื่อเจ้าพนักงานจะได้สอบถาม แนะนำ ช่วยเหลือ หรือตักเตือนตามที่เห็นสมควรในเรื่องความประพฤติและการประกอบอาชีพ หรือจัดให้กระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์

(2) ให้ฝึกหัดหรือทำงานอาชีพอันเป็นกิจจะลักษณะ

(3) ให้ละเว้นการคบหาสมาคมหรือการประพฤติใดอันอาจนำไปสู่การกระทำความผิดในทำนองเดียวกันอีก

(4) ให้ไปรับการบำบัดรักษาการติดยาเสพติดให้โทษ ความบกพร่องทางร่างกายหรือจิตใจ หรือความเจ็บป่วยอย่างอื่น ณ สถานที่และตามระยะเวลาที่ศาลกำหนด

(5) ให้เข้ารับการฝึกอบรม ณ สถานที่และตามระยะเวลาที่ศาลกำหนด

(6) ห้ามออกนอกสถานที่อยู่อาศัย หรือห้ามเข้าในสถานที่ใดในระหว่างเวลาที่ศาลกำหนด ทั้งนี้ จะใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์อื่นใดที่สามารถใช้ตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทางด้วยก็ได้ (7) ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือเยียวยาความเสียหายโดยวิธีอื่นให้แก่ผู้เสียหายตามที่ผู้กระทำความผิดและผู้เสียหายตกลงกัน (8) ให้แก้ไขฟื้นฟูหรือเยียวยาความเสียหายที่เกิดแก่ทรัพยากรธรรมชาติ หรือสิ่งแวดล้อม หรือชดใช้ค่าเสียหายเพื่อการดังกล่าว

(9) ให้ทำทัณฑ์บนโดยกำหนดจำนวนเงินตามที่ศาลเห็นสมควรว่าจะไม่ก่อเหตุร้าย หรือก่อให้เกิดภยันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สิน (10) เงื่อนไขอื่น ๆ ตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดเพื่อแก้ไข ฟื้นฟู หรือป้องกันมิให้ผู้กระทำความผิดกระทำหรือมีโอกาสกระทำความผิดขึ้นอีก หรือเงื่อนไขในการเยียวยาผู้เสียหายตามที่เห็นสมควร เงื่อนไขตามที่ศาลได้กำหนดตามความในวรรคสองนั้น ถ้าภายหลังความปรากฏแก่ศาลตามคำขอของผู้กระทำความผิด ผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้นั้น ผู้อนุบาลของผู้นั้น พนักงานอัยการหรือเจ้าพนักงานว่าพฤติการณ์ที่เกี่ยวแก่การควบคุมความประพฤติของผู้กระทำความผิดได้เปลี่ยนแปลงไป เมื่อศาลเห็นสมควรศาลอาจแก้ไขเพิ่มเติมหรือเพิกถอนข้อหนึ่งข้อใดเสียก็ได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขข้อใดตามที่กล่าวในวรรคสองที่ศาลยังมิได้กำหนดไว้เพิ่มเติมขึ้นอีกก็ได้ หรือถ้ามีการกระทำผิดทัณฑ์บนให้นำบทบัญญัติมาตรา 47 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

 

ตัวอย่างการเขียนคำร้องประกอบคำรับสารภาพคดีอาญาประกอบคำรับสารภาพ ขอให้ศาลลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ และตัวอย่างเหตุบรรเทาโทษ

 

         ข้อ ๑.จำเลยได้ให้การรับสารภาพตามคำให้การฉบับลงวันที่วันนี้ รายละเอียดทราบแล้วนั้นจำเลยขอแถลงการณ์ประกอบคำรับสารภาพเพื่อประกอบดุลพินิจของศาลในการลงโทษจำเลยดังจะกล่าวต่อไปนี้

 

            ๑.๑ (บรรยายข้อเท็จจริงให้เข้าองค์ประกอบ เหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ ตามมาตรา ๕๖) ....รายละเอียดปรากฏตามเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข ๑ ถึง ๔ ตามลำดับ

 

            ๑.๒ (บรรยายข้อเท็จจริงให้เข้าองค์ประกอบกฎหมาย เหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ ตามมาตรา ๕๖) ....รายละเอียดปรากฏตามเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข ๑ ถึง ๔ ตามลำดับ

 

           ๑.๓ (บรรยายข้อเท็จจริงให้เข้าองค์ประกอบกฎหมาย เหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ ตามมาตรา ๕๖) ....รายละเอียดปรากฏตามเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข ......

 

           ๑.๔ (บรรยายข้อเท็จจริงให้เข้าองค์ประกอบกฎหมาย เหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ ตามมาตรา ๕๖) ....รายละเอียดปรากฏตามเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข ......

 

           ๑.๕ (บรรยายข้อเท็จจริงให้เข้าองค์ประกอบกฎหมาย เหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ ตามมาตรา ๕๖) ....รายละเอียดปรากฏตามเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข ......

 

           ๑.๖ (บรรยายข้อเท็จจริงให้เข้าองค์ประกอบกฎหมาย เหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ ตามมาตรา ๕๖) ....รายละเอียดปรากฏตามเอกสารท้ายคำร้องหมายเลข ......

 

           ๑.๗................

 

          ข้อ ๒.  (สรุป เหตุผลตามคำร้อง)   ................................................           ข้อ ๓. (คำขอต่อศาล)    จำเลยจึงขอประทานกราบเรียนต่อศาล  โปรดให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีด้วยการรอการลงโทษหรือรอการกำหนดโทษจำคุกแก่จำเลยสักครั้งหนึ่ง  จักเป็นพระคุณอย่างหาที่สุดมิได้  โดยจำเลยให้สัตย์ปฏิญาณว่าจะตั้งใจกระทำแต่ความดี  ไม่หวนกลับไปกระทำผิดอาญาอื่นใดอีก  ทั้งนี้ จำเลยพร้อมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขคุมความประพฤติที่ศาลจะกำหนดทุกประการ                

                        ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด           

         ลงชื่อ                                 จำเลย

 คำร้องฉบับนี้ ข้าพเจ้า   นายกอบเกียรติ...ทนายจำเลย เป็นผู้เรียงและพิมพ์                             

              ลงชื่อ                             ผู้เรียงและพิมพ์

 

Visitors: 146,459