ทนายความคดีมโนสาเร่
คดีโมนสาเร่ คืออะไร
คำว่า “มโนสาเร่” นั้นหมายถึงเรื่องเบ็ดเตล็ดหยุมหยิม ส่วน คดีมโนสาเร่ คือ คดีที่คดีที่มีทุนทรัพย์พิพาทกันคำนวณเป็นเงินได้ไม่เกินสามแสนบาท เช่น โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าเสียหายจากจำเลยผิดสัญญา หรือละเมิดต่อโจทก์ เป็นเงิน 300,000 บาท ถือว่าเป็นคดีมโนสาเร่ หรือ ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านเช่าพิพาท มีอัตราค่าเช่า เดือนละไม่เกินสามหมื่นบาท เป็นต้น หากเกินกว่านั้นจะเป็นคดีแพ่งสามัญ ซึ่งมีวิธีพิจารณาหลายอย่างที่แตกต่างกัน คดีมโนสาเร่จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นคดีที่ไม่ใหญ่โตนัก โดยปกติจะอยู่ในเขตอำนาจพิจารณาของศาลแขวง
หลักกฎหมาย
มาตรา 189 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง บัญญัติไว้ว่า คดีมโนสาเร่ คือ
(1)คดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ไม่เกินสามแสนบาท
(2)คดีฟ้องขับไล่บุคคลใด ๆ ออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าหรืออาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละสามหมื่นบาท
มาตรา 193 ในคดีมโนสาเร่ ให้ศาลกำหนดวันนัดพิจารณาโดยเร็วและออกหมายเรียกไปยังจำเลย ในหมายนั้นให้จดแจ้งประเด็นแห่งคดีและจำนวนทุนทรัพย์หรือราคาที่เรียกร้อง และข้อความว่าให้จำเลยมาศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การ และสืบพยานในวันเดียวกัน และให้ศาลสั่งให้โจทก์มาศาลในวันนัดพิจารณานั้นด้วย
ในวันนัดพิจารณา เมื่อโจทก์และจำเลยมาพร้อมกันแล้ว ให้ศาลไกล่เกลี่ยให้คู่ความได้ตกลงกันหรือประนีประนอมยอมความกันในข้อที่พิพาทนั้นก่อน
ถ้าคู่ความไม่อาจตกลงกันหรือไม่อาจประนีประนอมยอมความกันได้และจำเลยยังไม่ได้ยื่นคำให้การ ให้ศาลสอบถามคำให้การของจำเลย โดยจำเลยจะยื่นคำให้การเป็นหนังสือ หรือจะให้การด้วยวาจาก็ได้ ในกรณียื่นคำให้การเป็นหนังสือให้นำมาตรา ๑๙๑ วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม ในกรณีให้การด้วยวาจา ให้ศาลบันทึกคำให้การรวมทั้งเหตุการณ์นั้นไว้ อ่านให้จำเลยฟัง แล้วให้จำเลยลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ
ถ้าจำเลยไม่ให้การตามวรรคสาม ให้ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจมีคำสั่งไม่ยอมเลื่อนเวลาให้จำเลยยื่นคำให้การ โดยให้ถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ และให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดโดยนำมาตรา ๑๙๘ ทวิ มาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้สืบพยาน ก็ให้ศาลดำเนินการต่อไปตามมาตรา ๑๙๓ ตรี มาตรา ๑๙๓ จัตวา และมาตรา ๑๙๓ เบญจ๑๓
การยื่นคำให้การต่อสู้คดีในคดีมโนสาเร่หรือคดีไม่มีข้อยุ่งยากต่างจากคดีแพ่งสามัญ และคดีผู้บริโภค
หากได้รับหมายเรียกดังกล่าวมาแล้วข้างต้นนี้ จำเลยมีหน้าที่ต้องยื่นคำให้การและ มาศาลตามวันนัดที่ได้ระบุไว้ในหมายเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การ และสืบพยาน และหากมีความประสงค์จะต่อสู้คดีก็จะต้องให้การแก้คดีภายในวันนัดที่ระบุในหมาย ซึ่งถือเป็นวันนัดพิจารณาครั้งแรกด้วย หากไม่ไปศาลในวันพิจารณา ศาลอาจถือว่าขาดนัดยื่นคำให้การ หรือขาดนัดพิจารณา แล้วแต่กรณี ซึ่งจะมีผลทำให้เป็นฝ่ายแพ้คดี โดยศาลจะตัดสินคดีโจทก์ไปผ่ายเดียว และจะมีคำพิพากษาและบังคับคดีต่อไป ดังนั้น หากได้รับหมายศาลดังกล่าวแล้ว ควร จะรีบติดต่อทนายความเพื่อช่วยดูแลคดี และทำคำให้การต่อสู้คดี ให้ทันตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดต่อไป
กอบเกียรติ เอี่ยมสงวน ทนายความ นบ.นบท.0864031447