ทนายความคดีฟ้องหมิ่นประมาท

หลักกฎหมายความผิดฐานหมิ่นประมาท          มาตรา 326 มีหลักว่า  ...ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้นั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จากมาตราดังกล่าว แยกองค์ประกอบได้เป็น

              1)ผู้ใด ผู้ใส่ความ :ผู้กระทำ(ผู้กระทำการหมิ่นประมาท)

              2) ใส่ความผู้อื่น ต่อบุคคลที่สาม

              3)โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นได้รับความเสียหาย

           4) มีการกระทำโดยเจตนา (องค์ประกอบภายใน)


ตัีวอย่างคดีหมิ่นประมาทที่ไม่ถือว่าเป็นความผิด 

 1.1 ต่อสู้ว่า ข้อความกล่าวนั้น ไม่ได้เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงเป็นเพียงการคาดคะเนเป็นคำขู่

ฎีกาที่2180 / 2531 และฎีกาที่1201 / 2505จำเลยซึ่งเป็นตำรวจไปจับแผ่นกระดาษจดหมายเลขสลากกินรวบที่นางพีเป็นผู้ขาย ก่อนจับได้ก็มีการยื้อแย่งกันและจับได้บนบ้านของโจทก์ จำเลยพูดกับโจทก์ว่า เดี๋ยวจับเป็นอันธพาลทั้งพ่อทั้งลูก(โจทก์ที่เป็นบุตรสาวของโจทก์ที่1) ดังนี้ ไม่มีมูลเป็นความผิดฐานใส่ความหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา326 เพราะจำเลยมิได้กล่าวว่าโจทก์ทั้งสองเป็นบุคคลอันธพาล เป็นคำขู่เพื่อมิให้โจทก์ทั้งสองเข้าขัดขวางช่วยเหลือผู้กระทำผิดเท่านั้น

1.2 ต่อสู้ว่าเป็นการเปรียบเทียบเลื่อนลอยไม่ยืนยันข้อเท็จจริง

ฎีกา42 6/62520ส่งข่าวไปลงหนังสือพิมพ์ว่า ส. เป็นนายทุนขูดรีดจนถึงขนาดถูกสอบสวนว่าเป็นภัยต่อสังคม เป็นคำกล่าวหมิ่นประมาทและไม่เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ที่กล่าวว่าเป็น ส. ส. ขบวนการปลาทูเป็นการเปรียบเทียบเลื่อนลอยไม่ยืนยันข้อเท็จจริงไม่เป็นหมิ่นประมาท

1.3 ต่อสู้ว่า  ข้อความเป็นเพียงคำไม่สุภาพ  ไม่เป็นการใส่ความ

 ฎีกา576 / 2550คำฟ้องโจทก์อ้างเหตุประการแรกว่า จำเลยที่หมิ่นประมาทโจทก์ด้วยถ้อยคำว่า "โจทก์ยกที่ดินให้แล้ว ยังจะเอาคืน เสือกโง่เอง อย่าหวังว่าจะได้สมบัติคืนเลย" ข้อความนี้ เป็นเพียงการกล่าวถ้อยคำไม่สุภาพเท่านั้น ไม่ถึงขนาดเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์หรือทำให้โจทก์เสียชื่อเสียงแต่อย่างใด ดังนั้นแม้หากจะฟังได้ว่า จำเลยที่1 กล่าวถ้อยคำตามคำฟ้องจริงก็ไม่เป็นเหตุให้โจทก์มีสิทธิเพิกถอนการให้ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยที่ได้กล่าวข้อความตามคำฟ้องหรือไม่ฎีกา72/ 2525ฎีกาที่9627 / 2555

1.4 ฎีกาที่256 / 2509ต่อสู้ว่า การกล่าวข้อความที่เป็นไปไม่ได้ไม่ทำให้คนเชื่อ ไม่เกิดความรู้สึกเกลียดชังดูหมิ่น เช่น ด่าเป็นปอบ เป็นชาติหมา

1.5 ต่อสู้ว่า การกล่าวถึงกลุ่มบุคคลโดยไม่ได้ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าหมายถึงใครผู้ใดและไม่อาจเข้าใจได้ว่าหมายถึงใครไม่เป็นการหมิ่นประมาทฎีกาที่1325 / 2498กรณีที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทข้อความที่กล่าวจะต้องมุ่งเจาะจงถึงบุคคลใดโดยเฉพาะ และโจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความถึงบุคคลผู้ถูกหมิ่นประมาทนั้นด้วยเมื่อในคำโฆษณามีความหมายเฉพาะนายแพทย์ชายคนหนึ่งไม่มีกินความถึงนายแพทย์ทุก ๆ คนของโรงพยาบาลศิริราช ทั้งโจทก์หาได้นำสืบถึงนายแพทย์คนที่ถูกใส่ความหมิ่นประมาทก็ย่อมทราบไม่ได้ว่านายแพทย์คนใดเป็นผู้เสียหายเมื่อตามคำฟ้องไม่มีช่องทางแสดงให้เห็นว่าจำเลยมุ่งหมายกล่าวใส่ความถึงนายแพทย์เฉลิม นายแพทย์เฉลิมจึงมิใช่ผู้เสียหายอันจะพึงร้องทุกข์ได้

1.6 ไม่ถึงขนาดเป็นการใส่ความให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ไม่เป็นหมิ่นประมาท เพราะข้อความที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้นต้องพิจารณาถึงความรู้สึกวิญญูชนทั่วๆไปเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาไม่ใช่พิจารณาถึงความรู้สึก ของผู้ถูกหมิ่นประมาทเพียงฝ่ายเดียว

   ฎีกา2777/2545วันนัดสืบพยานโจทก์ ระหว่างผู้พิพากษารออ่านรายงานกระบวนพิจารณา จำเลยได้พูดต่อหน้าผู้พิพากษา ทนายจำเลยและพยานว่า "ทนายความคนนี้ใช้ไม่ได้ ทั้งประเทศไทยมีทนายความแบบนี้อยู่คนเดียว ชอบหาเรื่องกลั่นแกล้งจำเลย ประเทศชาติอยู่ไม่ได้แน่ ถ้ายังมีทนายความประเภทนี้ อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล" และเมื่อผู้พิพากษาตักเตือน จำเลยยังพูดต่ออีกว่า "ท่านครับอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล" เป็นการระบายความรู้สึกของจำเลยที่มีต่อโจทก์และเป็นการวิจารณ์การทำงานในหน้าที่ทนายความของโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับจำเลยในความรู้สึกว่าจำเลยถูกกลั่นแกล้งมิใช่เป็นการใส่ความให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง ไม่เป็นหมิ่นประมาท

1.7 การเบิกความในฐานะพยานตอบคำถามไปตามหน้าที่ของพยานไม่มีเจตนาใส่ความผู้อื่นให้ไม่ผิดฐานมินประมาท ฎีกา249 / 2510

1.8การทะเลาะโต้เถียงกันด้วยความโกรธถ้อยคำโต้ตอบกันถือว่าไม่มีเจตนาใส่ความ ไม่เป็นความผิดฐาน หมิ่นประมาท

 ฎีกา1545 / 2513ฟ้องหาว่าจำเลยหมิ่นประมาทใส่ความ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าถ้อยคำที่จำเลยกล่าวเป็นถ้อยคำตอบโต้หรือย้อนคำโจทก์ต่างคนต่างว่าซึ่งกันและกันในการทะเลาะโต้เถียงกัน จะถือเป็นถ้อยคำที่จำเลยเจตนาใส่ความอันเข้าลักษณะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทไม่ได้โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง

1.9 การต่อสู้โดยการพิสูจน์ได้ว่าข้อความที่กล่าวหาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นความจริงผู้นั้นไม่ต้องรับโทษมาตรา330 วรรคแรก แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์ถ้าข้อความ นั้นเป็นเรื่องส่วนตัวและการพิสูจน์จะไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนตาม330 วรรคท้าย

2.0 ข้อยกเว้นตามมาตรา329.  331 ซึ่งบัญญัติว่า.....

มาตรา329 ผู้ใดแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต
(1) เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับ
ตนตามคลองธรรม
(2) ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่
(3) ติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัย ของประชาชนย่อมกระทำ หรือ
(4) ในการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรม เรื่องการดำเนินการอันเปิด เผยในศาลหรือในการประชุม
ผู้นั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

มาตรา 331 ทนายความหรือทนายความของคู่ความ ซึ่งแสดงความคิด เห็น หรือข้อความในกระบวนพิจารณาคดีในศาล เพื่อประโยชน์แก่คดี ของตน ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

3.ข้อต่อสู้ว่าตนไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด

Visitors: 146,366