คดีรับของโจร จำเลยต้องรู้ว่าทรัพย์ที่ได้มาเป็นของโจร

ข้อต่อสู้คดีรับของโจร สู้อย่างไรให้ศาลยกฟ้อง

           องค์ประกอบความผิดฐานรับของโจรนั้น  ที่สำคัญจะต้องเป็นการกระทำโดยเจตนา กล่าวคือ ผู้กระทำผิดจะต้องรู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 วรรคสาม ว่าทรัพย์ที่ได้มานั้นเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิด ไม่ใช่ว่าแค่ทรัพย์ของผู้อื่นมาอยู่ในครอบครองของเราแล้วจะเป็นการรับของโจรในทันที  กล่าวคือ จะต้องรู้ว่าทรัพย์สินนั้นเป็นของโจร  หากไม่รู้ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ถือว่าขาดเจตนาในทางกฎหมายอาญาจะไม่เป็นความผิด  

          ซึ่งการจะรู้หรือไม่รู้ข้อเท็จจริง หรือ มีเจตนารับของโจรหรือไม่นั้น  ศาลจะพิจารณาจากพฤติการณ์ต่าง ๆ เช่น ราคาทรัพย์สินที่รับซื้อมาต่ำผิดปกติหรือไม่ หรือมีรอยมีร่องรอยการโจรกรรม เช่น รถมอเตอร์ไซค์ซื้อมามีรอยงัดเบ้ากุญแจ  ไม่มีแม่กุญแจ มีการตีเลขทะเบียนปลอม  มีราคาถูกกว่าท้องตลาดมากทั้งๆที่มีราคาแพง   มีการเปลี่ยนแปลงสภาพของทรัพย์อย่างมีนัย  อาวุธปืนที่ซื้อมามีการขูดลบเลขทะเบียน  ผู้ขายทรัพย์ซึ่งมีทะเบียนไม่มีเอกสารทางทะเบียนมาแสดง เป็นต้น  เช่นนี้ ผู้ที่รับซื้อหรือรับทรัพย์นั้นมาย่อมจะต้องรู้ได้ว่าทรัพย์สินนั้นน่าจะเป็นของที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย และเป็นการยากที่จะปฎิเสธในข้อนี้ได้  ซึ่ง ความผิดฐานรับของโจรนี้ผู้เขียนพบเห็นว่าส่วนมากศาลชั้นต้นจะพิพากษาตัดสินโดยไม่รอการลงโทษจำเลยโดยไม่รอการลงโทษ เพราะกฎหมายจะมองว่าการรับของโจรเป็นการสนับสนุนหรือก่อให้เกิดการกระทำความผิด ลัก วิ่ง ชิง ปล้น ฯ

 

คำพิพากษาศาลฎีกา 287 / 2540 คดีเกี่ยวกับความผิดฐานรับของโจรนั้นข้อสำคัญคือต้องนำสืบให้เห็นว่าจำเลยรับซื้อไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์สินอันได้มาโดยกระทำความผิดกรณีของจำเลยเมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานมายืนยันให้เห็นว่าจำเลยได้รับรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นซับของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักเอา ไปไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิด  จะอาศัยพฤติการณ์ที่เจ้าพนักงานตำรวจยึดรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปจากบ้านของ ส. โดยคิดหรือคาดคะเนเอาว่าจำเลยได้ครอบครองหรือช่วยจำหน่ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายแล้วฟังว่าจำเลยกระทำความผิดหาได้ไม่

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6771 / 2542 การที่จำเลยอ้างว่าดับจำนำอาวุธของกลางซึ่งถูกคนร้ายรักไปไว้จากตอซึ่งมีอายุเพียง 16 ปีและไม่เคยรู้จักกับจำเลยมาก่อนโดยไม่ได้ขอดูหลักฐานใบอนุญาตให้มีและใช้ อาวุธปืนของบิดาต่อและรับจำนำไว้ในราคาเพียง 3500 บาททั้งที่จำเลยนำไปขายต่อยังได้ราคาถึง 10,000 บาทแสดงว่าจำเลยรับจำนำไว้ในราคาที่ต่ำผิดปกติและมีพิรุธ ตั้งอาวุธปืนดังกล่าวมีร่องรอยการขุดลบหมายเลขทะเบียนไม่สามารถอ่านได้แสดงว่าอาวุธปืนดังกล่าวถูกเปลี่ยนมือไปในลักษณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงมีการขูดลบหมายเลขทะเบียนเพื่อทำลายหลักฐานศาลให้เห็นว่าจำเลยรับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำ ผิดจำเลยจึงมีความผิดฐานรับของโจร

นอกจากนี้ข้อต่อสู้ก็คงเป็นเรื่อง ตนไม่ใช่ผู้กระทำความผิด หรือ ทรัพย์ที่ได้มานั้นไม่ได้มีที่มาจากการกระทำความผิด ฐานลักทรัพย์ วิ่งราว ชิงทรัพย์ หรือยักยอก ฯลฯ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานซึ่งต้องพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไป

เรียบเรียงโดย ทนายกอบเกียรติ นบ.นบท. โทร  086-4031447  

Visitors: 144,186